วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ภาชนะสามขาบ้านเก่า จ.กาญจนบุรี

ที่มา:http://www.virtualmuseum.finearts.go.th
                                   ภาชนะสามขา หรือ หม้อสามขา  เป็นโบราณวัตถุที่สำคัญ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงภูมิปัญญาและความคิดที่สร้างสรรค์ของบรรพบุรุษ วันนี้ "ใครไม่ดีแต่โบราณคดี" จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับหม้อสามขานี้ ว่ามีที่มาอย่างไร สร้างขึ้นในสมัยไหน และทำไมต้องเป็นหม้อสามขาเอาไว้ใช้ประโยชน์อะไร ไปทำความรู้จักกันเลยค่ะ 😄😄

                     ประวัติหม้อสามขา                       
                       เป็นภาชนะดินเผาสมัยก่อนประวัติศาสตร์ มีอายุประมาณ 3,500 - 4,000 ปี ซึ่งขุดค้นพบหลายจังหวัดด้วยกัน พบมากที่แหล่งโบราณคดีในเขตที่ราบ และเทือกเขาทางภูมิภาคตะวันตก ต่อเนื่องลงไปทางภาคใต้จนถึงคาบสมุทรมาเลย์แหล่งโบราณคดีสำคัญที่รู้จักกันแพร่หลายที่พบภาชนะดินเผาสามขา“หม้อสามขา” คือแหล่งโบราณคดีบ้านเก่า จังหวัดกาญจนบุรี  นับเป็นโบราณวัตถุชิ้นเด่นของแหล่งโบราณคดีบ้านเก่า ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ที่ตั้งอยู่บริเวณริมห้วยสาขาของแม่น้ำแควน้อย โดยมีทีมขุดค้นที่แหล่งโบราณคดีบ้านเก่าระหว่าง พ.ศ.2503-2505 ของคณะสำรวจก่อนประวัติศาสตร์ไทย- เดนมาร์ก
                       นอกจากนี้ยังพบที่แหล่งโบราณคดีหนองราชวัตร และแหล่งโบราณคดีบ้านแจงงาม จังหวัดสุพรรณบุรี และยังได้พบแพร่กระจายลงไปทางจังหวัดราชบุรี ส่วนทางภาคใต้พบหนาแน่นในจังหวัดชุมพร ที่แหล่งโบราณคดีเขาทะลุ และแหล่งอื่นๆในอำเภอสวี ส่วนที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี พบที่แหล่งโบราณคดีนาเชียง แหล่งโบราณคดีถ้ำเบื้องแบบ เป็นต้น

                   ลักษณะของหม้อสามขา                     
                         ลักษณะคล้ายหม้อมีขา  3  ขา ติดอยู่ที่สันภาชนะ  ขามีลักษณะกลมเรียวและกรวง  บริเวณส่วนบนหรือส่วนล่างของขาเจาะรู 1 - 2 รู ถ้าเป็นขาขนาดเล็กอาจมีเพียงรูเดียว  ตัวหม้อและขาทำคนละครั้ง เมื่อเสร็จแล้วจึงนำมาต่อกันจึงเห็นรอยต่อบนผิวหม้อเป็นสันนูน  หม้อสามขามีขนาดต่างๆ กัน ตั้งแต่ขนาดใหญ่มากจนถึงขนาดเล็ก
ที่มา: https://writer.dek-d.com/

                   ลักษณะการใช้งาน                           
                        สันนิษฐานว่าเป็นภาชนะที่นำมาใช้สอยในชีวิตประจำวัน  โดยขาที่ต่อออกมาจากตัวหม้อคงใช้วางคร่อมไฟแทนการตั้งบนเสา และรูที่ขาคงช่วยเรื่องการระบายความร้อน มักเชื่อกันว่าใช้สำหรับในชีวิตประจำวันเพื่อความสะดวกในการตั้งบนกองไฟ แต่หากเปรียบเทียบกับภาชนะสามขาที่พบในจีน ที่เรียกว่าติ่ง (Ting)
ภาชนะสามขาที่พบในประเทศจีน
ที่มา:http://bclc-tu.com/politics7.7_page3.html
                       ที่ใช้สำหรับหุงต้มอาหารในพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ และยังพบว่าเป็นของที่อุทิศให้กับผู้ตาย ซึ่งภาชนะสามขาจำนวนมากที่พบในไทยก็มักพบว่าถูกฝังร่วมกับศพ ที่น่าจะเป็นภาชนะใส่เครื่องเซ่นหรืออุทิศให้ผู้ตายที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมเช่นเดียวกัน

                   หลักฐานความเป็นมา                       
                      หลักฐานการค้นพบนั้นมีทั้งแบบเป็นลายลักษณ์และไม่เป็นลายลักษณ์โดยหม้อสามขานั้น เป็นโบราณวัตถุที่ขุดพบในไทย แสดงให้เห็นว่าคนไทยในสมัยก่อนนั้นก็มีความสามารถที่สร้างสรรค์สิ่งของได้และน่าจะมีการทำการเกษตรแล้ว ถึงแม้จะเชื่อว่าได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีนคือวัฒนธรรมหลงซาน (Lung Shan) และวัฒนธรรมหยางเส้า (Yangshao) ซึ่งมีอายุประมาณ 5,000 - 4,000 ปีที่ผ่านมา จัดเป็นวัฒนธรรมสมัยหินใหม่ ที่ผู้คนรู้จักทำการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์แล้ว การแพร่กระจายของหม้อสามขา เข้ามาในดินแดนประเทศไทยนั้น นักวิชาการเชื่อกันว่าเกี่ยวพันกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมในสมัยหินใหม่ในบ้านเราอย่างมาก เพราะสอดคล้องกับการที่ผู้คนในประเทศไทยเริ่มรู้จักทำเกษตรกรรม

ที่มา: https://www.slideshare.net/
                 
                     👍👍👍   คราวนี้ก็คงได้ทำความรู้จักกับหม้อสามขากันแล้วใช่ไหมคะ นี่ถือเป็นโบราณวัตถุชิ้นสำคัญที่ทำให้เห็นถึงความสามารถ ภูมิปัญญา และการสร้างสรรค์ ที่สำคัญคือการติดต่อสื่อสาร กับคนต่างแดน หรืออาจเป็นการเดินทางเข้ามาที่ประเทศไทย เพราะมีการไหลบ่าทางวัฒนธรรม ได้เห็นว่าในอดีตเมื่อยุคก่อนประวัติศาสตร์มีการประดิษฐ์สิ่งของเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต นั่นคือสิ่งที่น่าภูมิใจของเหล่ามนุษย์ ต่อไป "ใครไม่ดีแต่โบราณคดี" จะพาไปรู้จักกับเรื่องโบราณๆคดีอะไรนั้นคอยติดตามค่ะ 🙏🙏

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ; พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร,ณัฐกานต์ พิภูษณกาญจน์,จากhttps://www.gotoknow.org/posts/4954,ค้นเมื่อ 21/02/61.
JANTHIMABLOG,จากhttps://janthimablog.wordpress.com/,ค้นเมื่อ 21/02/61.
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเก่า,จากhttp://www.virtualmuseum.finearts.go.th,ค้นเมื่อ 21/02/61.

วันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

วัดวรเชษฐาราม(ในเกาะ) จ.พระนครศรีอยุธยา โบราณสถานที่น่าสนใจ


ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานท์กวี 
คนดีศรีอยุธยา เลอคุณค่ามรดกโลก
             
                       สวัสดีเพื่อนๆชาว blogger ทุกคนนะคะ  เปิดมาด้วยคำขวัญประจำจังหวัดอยุธยาแบบนีี้ แน่นอนค่ะ วันนี้blog "ใครไม่ดีแต่โบราณคดีดีดีจริงๆ" จะพาทุกคนไปสัมผัสแหล่งโบราณสถานที่น่าสนใจในจังหวัดอยุธยา ซึ่งเป็นราชธานีเก่าของประเทศไทย ที่มีอายุยืนยาวถึง 417 ปี จึงไม่แปลกที่จังหวัดอยุธยานั้นจะมีแหล่งโบราณสถานอยู่มากมาย  แต่วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ วัดวรเชษฐาราม(ในเกาะ)  แหล่งโบราณสถานที่น่าสนใจ และเหมาะกับการศึกษาประวัติศาสตร์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชอีกด้วย

ภาพจาก:https://www.bloggang.com

                      ประวัติวัดวรเชษฐาราม(ในเกาะ)   
                วัดวรเชษในจังหวัดอยุธยานั้นมีทั้งหมด 2 ที่ คือวัดวรเชษ(นอกเกาะ)และวัดวรเชษฐาราม(ในเกาะ) แต่วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับวัดวรเชษฐาราม(ในเกาะ)กัน  ซึ่งเป็นวัดอารามหลวงที่เก่าแก่มีอายุถึง 400 ปี ตั้งอยู่ภายในเกาะเมือง ที่ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ตามพงศาวดารกล่าวว่า ผู้สร้าง คือ พระเอกาทศรถ พระอนุชาของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแก่สมเด็จพระนเรศวร อีกทั้งยังใช้ในการถวายพระเพลิงพระบรมศพของสมเด็จพระเนศวร


ภาพจาก:http://chinsangtrip.com
             

          ในส่วนของโบราณวัตถุและโบราณสถานในวัดวรเชษฐารามก็จะมีหลายอย่างด้วยกัน เช่น
พระวิหาร ซึ่งในปัจจุบันก็เหลือเพียงแค่ฐาน




                และภายในกำแพงวัด ก็ประกอบไปด้วย เจดีย์ประธานทรงระฆังคว่ำ มีบัลลังก์และเสาหานรอบก้านฉัตร เชื่อกันว่าเจดีย์องค์นี้เป็นที่บรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ต่อมาคือ พระวิหารจำนวน 3 หลัง พระอุโบสถ และพระเจดีย์ย่อมุมขนาดเล็ก 2 องค์ ตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน

                           วัดวรเชษฐาราม(ในเกาะ)
                ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากร เมื่อ
วันที่ 18 มีนาคม 2484 ทะเบียน0000354

ภาพจาก:http://cdn.airportthai.co.th/

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.finearts.go.th/ , http://m.donmueangairportthai.com และ http://www.holidaythai.com/

วันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

รู้จักกับเรื่องดีๆของโบราณคดี

                                             สวัสดีจ้าชาวbloggerทุกคน👏👏👏
      ยินดีต้อนรับสู่บล็อก ใครไม่ดีโบราณคดีดีดีจริงๆ บล็อกที่จะพาทุกคนไปรู้จักกับโลกของโบราณคดีต่างๆทั้งเรื่องของโบราณวัตถุ สัตว์โลกล้านปีที่คุณอาจจะยังไม่รู้จัก


โบราณสถาน"วัดพระแก้ว จ.กำแพงเพชร"

ที่มา :  https://www.thetrippacker.com/th/                            วัดพระแก้ว จังหวัดกำแพงเพชร เป็นโบราณสถานที่ได้ขึ้นเป็นมรดกโลก...